ภาพยนตร์ "2012" วันสิ้นโลก หรือ โลกาวินาศ เกี่ยวข้องกับพระศรีอารย์อย่างไร |
คิดถึงเหตุผล ไม่ควรหวังในอิทธิปาฏิหาริย์ ผู้เขียนใช้เวลากว่า 16 ปี ศึกษาเรื่องพระศรีอารย์ตามความเชื่อของศาสนาพุทธและศาสนาอื่นๆด้วยเหตุผล มีที่มาที่ไป ไม่มีอิทธิปาฏิหาริย์เกี่ยวข้อง โดยนำข้อมูลเช่น จากพุทธทำนาย คำภีรย์ของศาสนาต่างๆ การพยากรณ์เช่นของนอสตราดามุส (นอสตระดามัส) และจากตำราที่อาจารย์ในสถาบันการศึกษาต่างประเทศได้รวบรวมไว้ เป็นต้น แล้ววิเคราะห์การเข้ากันได้ ความต่อเนื่อง ความเป็นไปได้และสรุปเป็นผลเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจได้ พระศรีอารย์จะเกี่ยวข้องกับมหันตภัยโลก ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ โปรดติดตาม ความจริง หรือ ความเชื่อใน 2012 มหันตภัยโลก ภาพยนตร์ “2012” หรือ วันสิ้นโลกในปี ค.ศ. 2012 หรือ พ.ศ. 2555 จะฉายพร้อมกันทั่วโลกในเดือนพฤศจิกายน 2552 ภาพยนตร์เรื่องนี้เน้นถึงโลกามหาวินาศที่อาจจะเกิดขึ้นในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยผู้สร้างภาพยนตร์คงไม่ได้คิดสร้างขึ้นมาเพื่อจงใจให้ผู้ชมได้ชมการถล่มทะลายของโลกให้สะใจ หรือให้คนบนโลกแตกตื่น แต่คงต้องการให้คนทั่วไปได้รู้ว่าอะไรอาจจะเกิดขึ้นได้ ผู้สร้างได้ยึดเอาเรื่องการพยากรณ์ของชาวมายันที่เจริญรุ่งเรืองสุดๆบนทวีปอเมริกากลางเมื่อ 1500 ปีก่อนพุทธกาลมาเป็นหลักในการสร้างภาพยนตร์ โดยประเด็นอยู่ที่ชาวมายันได้ศึกษาดาราศาสตร์ผสมผสานกับเรื่องของเทพเจ้าแล้วสร้างปฏิทินที่มีวันจบขึ้นมา โดยมายันนับถอยหลังจากกี่พันปีในเวลานั้น กลับมาปีที่ 0 ซึ่งถือว่าเป็นวันสิ้นสุดของโลก ดังนั้นปี พ.ศ. 2552 เวลานี้เป็นปีที่ 3 ปี 2553 จะเป็นปีที่ 2 ... และปี พ.ศ. 2555 หรือ ค.ศ. 2012 จะเป็นปีที่ 0 คือปีสิ้นสุดโลก ซึ่งต่างกับปฏิทินที่เราใช้กันอยู่ทุกๆวันนี้ ที่สามารถใช้และดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีที่สิ้นสุด สิ่งลี้ลับที่ชาวมายันหาวันสิ้นโลกได้นั้น คนในปัจจุบันยังไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าชาวมายันรู้วันสิ้นโลกได้อย่างไร เมื่อก่อนเราดูปฏิทินของชาวมายันดูเหมือนจะเป็นตำนานมากกว่าที่จะเป็นเรื่องจริง แต่เมื่อองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ ของประเทศสหรัฐอเมริกา หรือเป็นที่รู้จักกันดีคือ “นาซ่า” ได้ประกาศว่าในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2012 จะเกิดการระเบิดบนดวงอาทิตย์ครั้งใหญ่สุด ไม่เพียงเท่านี้ นักวิทยาศาสตร์ยังบ่งว่าโอกาสการสลับขั้วแม่เหล็กโลกคือเหนือเป็นใต้และใต้เป็นเหนืออาจเกิดขึ้นในช่วงนี้ด้วย ถ้าการระเบิดบนดวงอาทิตย์ประกอบกับการกลับขั้วแม่เหล็กโลกเกิดขึ้นจริง แผ่นดินย่อมไหวใหญ่ ไฟร้ายแรงจะเกิดขึ้นจากการระเบิดของท่อส่งแก็ส ประกอบกับไฟจากใต้พื้นโลก มนุษย์จะหาหาทางดับไม่ได้ ไฟฟ้าจะไม่มี พายุจะเกิดรุนแรงที่สุด คลื่นยักษ์ขนาดตึกร้อยชั้นจะโถมเข้าหาฝั่ง เรื่องเช่นนี้น่าจะเกิดขึ้นเพราะการขาดการสมดุลของสนามแม่เหล็กระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์เป็นปัจจัยหนึ่งที่จะกระตุ้นให้เกิดโลกามหาวินาศ ซึ่งความรุนแรงจะสงบได้เมื่อความสมดุลทั้งหลายกลับมาใหม่ พระพุทธเจ้าได้ตรัสเรื่องแผ่นดินไหวใหญ่ ภูมิอากาศผิดปกติเช่นกัน ซึ่งบ่งอยู่ในมหาปรินิพพานนั้น จะเห็นว่าพระผู้มีพระภาคย่อมทรงทราบเรื่องเช่นนี้ว่าจะเกิดขึ้นอย่างไรได้เช่นกัน ถ้าโลกาวินาศเกิดขึ้นจริง นั่นย่อมหมายถึงเผ่าพันธุ์มนุษยชาติ คงเหลือน้อยเต็มที แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ย่อมมีเหตุผลว่าโลกาวินาศจะเกิดทำไม แต่ก่อนอื่นจะพิจารณาว่า อะไรที่มาทำให้เรื่องของการพยากรณ์และงานทางวิทยาศาสตร์ประจวบเหมาะเป็นเวลาเดียวกันเช่นนี้ เรื่องนี้คงหาคำตอบไม่ได้ แต่ถ้าจะศึกษาต่อไปว่ามีการพยากรณ์อื่นๆที่บ่งบอกเวลาที่โลกาวินาศจะเกิดขึ้นอีกบ้างไหม คำตอบคือ มี เช่นพุทธทำนายที่พระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์ เกี่ยวกับโลกาวินาศ “แผ่นดินถล่มทะลายเป็นทะเล” ในปี 2556 หรือ ค.ศ. 2013 ซึ่งปลายปี 2012 ของนาซ่าและมายัน กับปี 2013 ของพุทธทำนายต่างกันแค่ไหน ความแตกต่างไม่มี นับว่าเป็นเวลาที่ใกล้เคียงกันมากเมื่อนับระยะเวลาที่พระผู้มีพระภาคตรัสกับพระอานนท์มาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีคำภีร์อื่นๆได้บ่งไว้ในทำนองเดียวกัน ดังนั้นเราไม่ควรประมาทในสิ่งที่ศาสนาและวิทยาศาสตร์ได้บ่งไว้ว่าจะเกิดขึ้น หนทางหยุด โลกาวินาศ ผู้ที่ศึกษาค้นคว้าคำทำนายทางศาสนาจะเห็นว่าศาสนาที่สำคัญๆของโลกได้ชี้ว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นการกระทำโดยทางธรรมชาติ แต่สวรรค์เป็นผู้กำหนด เพื่อการเปลี่ยนจากกลียุคที่มีคนทำบาปถึง 3 ใน 4 ไปเป็นกฤดายุคหรือยุคทองที่มีคนดีทั้ง 4 ส่วน ดังนั้นโลกาวินาศจะเป็นการล้างคนบาปคนชั่ว เป็นวันพิพากษาที่กฎหมายไม่มีความยุติธรรม หรือ ผู้กระทำผิดกฎหมายก็ไม่สามารถนำคนผิดมาลงโทษได้ วันพิพากษาจะเป็นวันที่ทางสวรรค์จะดำเนินการเองโดยผ่านมาทางพระศรีอารย์หรือมีชื่อเรียกตามศาสนาและภาษาต่างๆ ที่คนทุกชาติศาสนายอมรับ
พระศรีอารย์มีจริงหรือไม่ ตามคำทำนายที่คล้องจองกัน ได้บ่งบอกว่าพระศรีอารย์มีพระองค์จริงในปัจจุบัน แต่ไม่ปรากฏพระองค์ การที่จะให้พระศรีอารย์ปรากฏก็มีวิธีเดียวคือผู้คนต้องหาข้อเท็จจริง ไม่ใช่เชื่อแบบที่ได้กระทำกันมา ซึ่งนับว่าเป็นความยุติธรรมที่สุดแก่ทุกๆฝ่าย
ในเรื่องพระศรีอารย์นั้นมีข้อมูลอยู่มากที่เป็นเหตุผล มีที่มาที่ไป ยกเป็นตัวอย่าง เช่น พระศรีอารย์เกิดที่ไหน เรื่องนี้สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงตรัสชื่อกรุงเทพมหานคร ไว้ตอนหนึ่งคือองค์เทพผู้ที่จะมาปราบยุคเข็ญหรือพระศรีอารย์นั้น ได้ให้พระวิษณุกรรม(พระวิศวกรรม) มาสร้างกรุงเทพฯเพื่อจะได้มาจุติ ในขณะที่นอสตราดามุส (นอสตระดามัส) ได้บ่งว่าพระศรีอารย์เป็นลูกคนจน เกิดที่เมืองที่เคยเป็นทะเลมาก่อน และเมืองนี้ไม่สามารถวัดระยะได้ ซึ่งนอสตราดามุสได้ชี้ถึงเมืองที่วัดไม่ได้คือเมืองเทวดา และเมืองเทวดาที่เคยเป็นทะเลมาก่อนคือกรุงเทพมหานคร
ที่น่าสนใจเกี่ยวกับความรู้ของพระศรีอารย์นั้น นอสตราดามุสบ่งไว้ว่าพระศรีอารย์จะรูุ้้ว่านักวิทยาศาสตร์ทำอะไรผิดและจะแก้ไขอย่างไร
แต่งานสำคัญที่พระศรีอารย์ต้องทำคือสร้างสันติสุขที่แท้จริงขึ้นบนโลก และทำให้คนเลวคนชั่วหมดไป จากตัวอย่างเบื้องต้น การพิสูจน์ความจริงเรื่องพระศรีอารย์เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ ไม่มีผลเสียใด เรื่องของพระศรีอารย์มีมาก และมีรายละเอียดโดยไม่มีอิทธิปาฏิหาริย์เกี่ยวข้อง แต่เป็นเรื่องที่มีที่มาที่ไปเป็นเหตุผลและสามารถพิสูจน์หลักฐานในทาง วิทยาศาสตร์ได้ ท่านผู้สนใจดูเวปภาษาไทยได้ที่ www.metteya.org หรือภาษาอังกฤษที่ www.selfwisdom.net ซึ่งเวปนี้กำลังเป็นที่นิยมอยู่ทั่วโลก ก่อนจากกัน ขอฝากตัวอย่างภาพยนตร์ “2012” ไว้ดู ก่อนที่ของจริงจะฉายเดือนพฤศจิกายน ใน 2552 ปีนี้
ขอบคุณ
|
กลับไปหน้าแรกของ metteya.org |