ไม่จำเป็นต้องเชื่อ แต่ทำไมถึงมีพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ความจริงที่พิสูจน์ได้
เป็นไปตามกาลามสูตร พระพุทธเจ้าโคตมตรัสอะไร เพื่อใครถ้าไม่ใช่เราๆ

มีใครเคยคิดบ้าง พวกเราอาจโชคดีที่จะไม่มีอีกแล้ว ที่อาจเกิดมาบนพุทธภูมิ

(โปรดดูวีดีโอ เรื่องพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ได้ที่ตอนท้ายของเรื่องนี้ ขอบคุณ)


โปรดอ่านข้อมูลต่อไปนี้

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๙ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๑ สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค สีสปาปรรณวรรคที่ ๔ สีสปาสูตร

เปรียบสิ่งที่ตรัสรู้มีมากเหมือนใบไม้บนต้น

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ สีสปาวัน ใกล้เมืองโกสัมพี
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคทรงถือใบประดู่ลาย ๒-๓ ใบด้วยฝ่าพระหัตถ์ แล้วตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมา แล้วตรัสถามว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ใบประดู่ลาย ๒-๓ ใบ
ที่เราถือด้วยฝ่ามือกับใบที่บนต้น ไหนจะมากกว่ากัน? 
ภิกษุทั้งหลายกราบทูล ว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ใบประดู่ลาย ๒-๓ ใบที่พระผู้มีพระภาคทรงถือ
ด้วยฝ่าพระหัตถ์มี ประมาณน้อย ที่บนต้นมากกว่า พระเจ้าข้า.
 
พระผู้มีพระภาค อย่างนั้นเหมือนกัน ภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่เรารู้แล้วมิได้บอกเธอทั้งหลายมีมาก ก็เพราะเหตุไรเราจึงไม่บอก
เพราะสิ่งนั้นไม่ประกอบด้วยประโยชน์
มิใช่พรหมจรรย์เบื้องต้น
ย่อมไม่เป็นไปเพื่อความหน่าย ความคลายกำหนัด ความดับ ความสงบ ความรู้ยิ่ง
ความตรัสรู้ นิพพาน เพราะเหตุนั้น เราจึงไม่บอก.

ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งอะไรเราได้บอกแล้ว เราได้บอกแล้วว่า นี้ทุกข์ ...
นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา ก็เพราะเหตุไรเราจึงบอก
เพราะสิ่งนั้นประกอบด้วยประโยชน์ เป็น พรหมจรรย์เบื้องต้น
ย่อมเป็นไปเพื่อความหน่าย ... นิพพาน เพราะฉะนั้น เราจึงบอก ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย
เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงกระทำความเพียรเพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา.

สรุป พระพุทธเจ้าโคตมตรัสชัดเจนว่า สิ่งที่พระพุทธองค์รู้ แล้วมิได้บอกเธอ(ภิกษุทั้งหลาย)ทั้งหลายมีมาก แต่เพราะ่ไม่ใช่เป็นพรหมจรรย์เบื้องต้น พระพุทธองค์จึงไม่บอก


ข้อสังเกตุ

มีอะไรหรือที่พระพุทธเจ้าไม่ตรัส ทำไม เพราะเหตุไร เคยอ่านผ่านมา พระพุทธเจ้าตรัสถึงยุคของพระพุทธองค์เป็นยุคของมาร เข้าใจว่ามารจะทำลายสิ่งที่พระผู้มีพระภาคตรัสสอน พระพุทธเจ้าถึงไม่บอกไม่ตรัสสอน พระพุทธองค์ตรัสเพียงพรหมจรรย์เบื้องต้น ด้วยเหตุนี้ไหมที่พระพุทธเจ้าโคตมรอไว้ถึงพระเมตฺเตย ที่จะมาสอนในยุคทองต่อไป


พระไตรปิฎกเล่มที่ 7 วินัยปิฎกที่ 7 จุลวรรค ภาค 2 เรื่องพระนางมหาปชาบดีโคตรมี

สรุปว่า พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรอานนท์ ก็ถ้าสตรีจักไม่ได้ออกจากเรือนบวช เป็นบรรพชิต ในธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว พรหมจรรย์จักตั้งอยู่ได้นาน สัทธรรมจะพึงตั้งอยู่ได้ตลอดพันปี ก็เพราะสตรีออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต ในธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว บัดนี้ พรหมจรรย์จักไม่ตั้งอยู่ได้นาน สัทธรรมจักตั้งอยู่ได้เพียง ๕๐๐ ปีเท่านั้น ซึ่งถ้าเราได้ศึกษา เรื่องที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสนี้ เป็นจริง คือ เริ่มจากการผิดเพี้ยนของพระไตรปิฎกที่มีมาแต่สมัยโบราณก่อนแล้ว ดังมีข้อแสดงเช่น เอกสารเกี่ยวกับการชำระและการจารึก พระไตรปิฎก ในรัชกาลที่ ๑ (จากหนังสือพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา) … พระไตรปิฎกธรรมทุกวันนี้ ยังถูกต้องบริบูรณ์อยู่หรือพิรุธผิดเพี้ยนประการใด จึ่งสมเด็จพระสังฆราชพระราชาคณะทั้งปวง พร้อมกันถวายพระพรว่า พระบาลี และ อรรถกถาฎีกาพระไตรปิฎกทุกวันนี้พิรุธมากมาช้านานแล้ว (อ้างอิง: พระไตรปิฏก และ พระไตรปิฏกฉบับประชาชน โดยคุณสุชีพ ปุญญานุภาพ)

สรุป พระพุทธเจ้าตรัสพุทธทำนายเป็นจริงใช่ไหม ถ้าตอบตามความเป็นจริงคือใช่ ในปัจจุบัน มีพระสงฆ์กี่% และพุทธศาสนิกชนกี่ % ที่ยังไม่เสื่อมจากพระพุทธศาสนาทั้งในด้านปฏิบัติ ความรู้และประเพณี

เนื่องจากเถรวาท ไม่ได้มีข้อมูลเกี่ยวกับพระโพธิสัตว์มากเหมือนมหายาน ซึ่งเน้นพระโพธิสัตว์มากกว่า ฉะนั้นเรื่องราวของพระโพธิสัตว์ควรศึกษาจากมหายานประกอบด้วย จักได้ความชัดเจน

พระผู้มีพระภาคทรงตรัสถึงพระจักรพรรดิไว้ อยู่ในพระสูตรจักรพรรดิสิงหนาท ดังนี้ ในวันข้างหน้าไม่นานจากที่ตถาคตปรินิพพานไปแล้ว จะมีบุคคลท่านหนึ่งปรากฏขึ้นบนโลก เป็นผู้สูงส่งด้วยศีลธรรม เป็นผู้ที่ทราบความเป็นจริง มีความสมบูรณ์ พร้อมด้วยปัญญาทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งเช่น ตถาคตนี้ บุคคลท่านนี้หยั่งรู้การเกิด การดับของจักรวาล ทรงหยั่งรู้ทั้งพรหมและมาร และการดำเนินไปของโลกธรรมของสัตว์ทั้งหลาย บุคคลท่านนี้ทราบการกำเนิดของผู้สูงศักดิ์ และสามัญชนธรรมดา และหยั่งรู้ทั้งทางวัตถุและวิญญาณ ทั้งทางโลกและทางสวรรค์ บุคคลท่านนี้สามารถอธิบายการดำเนินไปของธรรมนั้นๆ โดยบุคคลท่านนี้มีจิตใจบริสุทธิ์ และจะมีศิษย์สนับสนุนมากมายเกินกว่าที่ตถาคตมีอยู่

ข้อสังเกต

ข้อมูลที่พระพุทธเจ้าโคตมตรัสข้างบนนี้ เป็นอีกหลักฐานหนึ่งที่พระพุทธเจ้าโคตมตรัสไว้เอง ที่ทำให้เข้าใจถึงพระเมตฺเตย เป็นพระพุทธเจ้าที่มีผู้คนยอมรับมากกว่าพระพุทธเจ้าพระองค์ใดๆ ในภัทรกัปอีก 4 พระองค์ และเพราะด้วยเหตพระเมตฺเตยยังเป็นพระจักรพรรดิ ที่ทุกๆศาสนาหลักของโลกยอมรับอีกด้วย ฉะนั้นความสงสัยในเรื่องที่พระพุทธเจ้าของเราตรัสไว้ จึงไม่น่าเกิดขึ้น

จากหลักฐาน ศาสนาพุทธในปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 5 ของโลก มีผู้นับถือประมาณ 6% อันดับหนึ่งคือศาสนาคริสต์ มีผู้นับถือ 35% อันดับสองคืออิสลาม 23 % อันดับสาม ฮินดู 14% ลัทธิของจีน 6.1-7% ดังนั้นตามพุทธทำนายและพยากรณ์โลก ที่ทุกศาสนายอมรับพระจักรพรรดิ ดังนั้นพระเมตฺเตย จะทำให้พระพุทธศาสนาเป็นเอกของโลก จึงมีโอกาสเป็นจริงได้ในที่สุด

สรุป เรื่องพระพุทธเจ้าพระองค์ที่ 5 นี้ ท่านพุทธทาสภิกขุได้กล่าวไว้ในเรื่องพระศรีอารย์อยุ่แค่ปลายจมูก ดังนั้นโปรดพึงอย่าได้ประมาทในกุศลธรรม ถึงแม้ท่านไม่เคยพบเห็นแต่ไม่ควรลบหลู่

สำหรับในเวลาปัจจุบัน ได้มีการสร้างพระพุทธเจ้า 5 พระองค์เพิ่มขึ้น มีภาพวาดปรากฏ ขอให้สังเกตุว่า พระพุทธเจ้าพระองค์ที่ 5 เป็นพระจักรพรรดิ ไม่อยู่ในรูปบรรพชิต แต่เป็นฆราวาส ทรงเครื่องพระจักรพรรดิ


metteya.org

การพิจารณา 1

metteya.org

การพิจารณา 2

metteya.org

การพิจารณา 3 ได้มีการสร้างพระพุทธเจ้า 5 พระองค์เพิ่มขึ้นอีกที่ จ. เพชรบูรณ์

metteya.org

การพิจารณา 4 พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ที่ จ. หนองคาย

metteya.org

พระจักรพรรดินั้นจะสังเกตุได้จากพระเนตรที่ 3 เพราะพระจักรพรรดิคือ
ท้าวสักกะเทวราชหรือพระอินทร์ที่มีพระเนตรที่ 3 ด้วย

ฉะนั้น เราเคยถามตนเองไหมว่า เราเข้าใจพระพุทธศาสนามากน้อยเท่าไร ที่เราปฏิบัติกันมานั้น เรารู้ได้อย่างไรว่า ถูกหรือผิดประการใด ที่กล่าวเช่นนี้เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่าพระไตรปิฎกมีพิรุษ และพระพุทธเจ้าตรัสไว้แล้วว่าพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนจะเสื่อมถอย มีดีเหลือไม่มาก เราไม่ควรปฏิเสธข้อเท็จจริงใช่หรือไม่

ทำไมพระพุทธเจ้าโคตมถึงตรัสพุทธทำนายไว้หลายเรื่อง ทั้งหมดเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าพระองค์ที่ 5 พระนามว่าพระเมตเตย หรือพระศรีอาริยเมตไตรย หรือเรียกโดยย่อว่า พระศรีอารย์ เป็นต้น จะมาปรากฏในปัจจุบัน แต่หาพุทธศาสนิกชนได้น้อยคนนักที่จะสนใจในพระพุทธเจ้าพระองค์ที่ 5 ที่พระพุทธเจ้าของเราตรัสไว้ ทำไมหรือ พระพุทธเจ้าของเราตรัสไว้ชัดเจนในพุทธทำนายว่า คนจะไม่สนใจ ก็นับว่าเป็นกรรมของสัตว์ที่เกิดมาและ็ก็สิ้นไป หรือมีใครคิดว่าไม่จริง


ใหม่ โปรดคลิก ลิงค์ไปยังวีดีโอ ทำไมโลกวิปริต ความจริงที่พิสูจน์ได้
และปี 2556 จะเป็นอย่างไร

14 May. 2554 
กลับไปหน้าแรกของ metteya.org