พุทธทำนาย (Buddha’s prophecy) แยกตามเวลาของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นข้อมูลจากเวบ metteya.org เกี่ยวกับพุทธทำนายต้นฉบับ ซึ่งสามารถสังเกตได้จาก พระพุทธเจ้าตรัสปี พ.ศ. ที่จะเกิดเหตุการณ์ต่างๆ กำกับไว้อย่างชัดเจน แต่ทาง metteya.org จะไม่ถือข้อมูลถูกหรือถือว่าผิดประการใด ถ้าท่านนำข้อมูลไปใช้ ขอได้ทบทวนกันเองตามอัธยาสัย ผู้ที่เกี่ยวข้องกับพุทธทำนายต้นฉบับนี้ มีีท่านเจ้าคุณฯ วัดบวรนิเวศวิหาร หรือ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร และผู้ใหญ่ระดับสูงหลายท่าน และอาจารย์ที่จุฬาฯ ได้จัดทำตามฉบับที่ไปคัดลอกมาจาก ประเทศอินเดีย และเวบ metteya.org จะแสดง พ.ศ. ตามด้วยปี ที่แก้ไขแล้วกำกับไว้ด้วย จากการที่ พ.ศ.ไทยใช้ 543 + กับปี ค.ศ. นั้นมีหลักฐานปรากฏอยู่เฉพาะในสีหฬภาษาไหม่จริง แต่ไม่มีปรากฏในสีหฬภาษาเก่า เรื่องนี้อาจเป็นข้อมูลหนึ่งที่องค์การวิชาการด้านพระพุทธศาสนาและประวัติศาสตร์หลายแห่ง ยกขึ้นเป็นประเด็นไม่ยอมรับ พ.ศ. ไทย ที่เวบ metteya.org มี ปธ.๙ และ อาจารย์หลายท่าน ได้ศึกษาค้นคว้าเรื่องราวในพระไตรปิฎก เรื่องราวในพระพุทธศาสนา ประวัติศาสตร์อินเดียและกรีก หลักฐานโบราณคดีที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการเกิดเหตุการณ์ในปัจจุบันแล้ว สรุปว่า พ.ศ. ที่ควรมีความถูกต้องจะต้องแก้ไขอย่างไร และได้ทดลองนำไปใช้ในพุทธทำนาย เห็นว่ามีความสอดคล้องกันกับเหตุการณ์ในปัจจุบันจริง มีความเป็นเหตผล นอกจากนี้ยังมีความสอดคล้องกับคำพยากรณ์ของมายันและอเมริกันอินเดียนเมื่อประมาณ 3000 ปีมาแล้ว และยังสอดคล้องกับคำทำนายโลกอื่นๆ เกี่ยวกับการมาปรากฏของพระธรรมมิกราช ทำให้เกิดศรัทธาในพุทธทำนายยิ่งขึ้น เรื่องที่กล่าวมา ทาง metteya.org ไมสนับสนุนให้ท่านใด้เชื่อตามหลักกาลามสูตรของพระพุทธองค์ ท่านใดจะมีความคิดเป็นอย่างไร ย่อมเป็นสิทธิของแต่ละบุคคล และเพื่อให้เห็นเวลาของการเกิดเหตุการณ์ จึงจัดแยกเป็นช่วงดังนี้ ตามระยะเวลา (Timeline) โดยมี พ.ศ. ไทยที่ปรับแก้แล้วกำกับ ชี้ถึงช่วงเวลาของเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น พ.ศ. 2484 : คณะธรรมทูตไทย ผู้ไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระศรีมหาโพธิ์ที่ประเทศอินเดียเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๔ ก่อน พ.ศ. 2548 : เมื่อโลกไปไกล้กึ่งจำนวนที่ตถาคตทำนายไว้ (คือ ก่อนปี ๒๕๐๐ ปี หรือ ก่อน พ.ศ. 2548) มนุษย์และสัตว์จะได้รับภัยพิบัติสารพัดทิศเสียครึ่งหนึ่ง (ผู้คนครึ่งหนึ่งของโลกจะได้รับภัยพิบัติเสียครึ่งหนึ่ง) พ.ศ. 2533 – 2563 : ช่วงในระยะ ๓๐ ปี สิ่งที่ศาสนิกชนไม่เคยพบเห็น ยักษ์หิน ถูกสาป (คนไม่ดี มีจิตใจเช่นยักษ์) ให้หลับก็กลับคื่นขึ้นมาอาละวาดยิ่งหนัก เมื่อใกล้กึ่งศาสนาของตถาคต ก็ทวีภัยใหญ่ขึ้นทุกทิพาราตรี และมนุษย์นอกศาสนาก็จะรบราฆ่าฟัน กันถึงเลือดนองแผ่นดินและแผ่นน้ำ แม้ในอากาศก็มี อำนาจภัยจากฟ้าทุกทิศานุทิศ ไฟจะลุกลามเผาผลาญมนุษย์ไม่ขาดระยะต่างฝ่ายต่างทำลายกันย่อยยับเหมือนยักษ์ กระหายเลือด แผ่นดินแผ่นน้ำจะเดือดเป็นไฟ และตายกันไปฝ่ายละครึ่งจึงเลิกรา ต่างฝ่ายต่างหมดกำลังด้วยกันตามวิสัยของยักษ์ร้ายนอกศาสนา (อธิบาย : ผูู้้มีพระภาคตรัสเกี่ยวกับก่อนกึ่งพุทธกาล หรือปี 2500 หรือ ก่อน พ.ศ. 2548 ว่า ก่อนกึ่งพุทธกาลนั้น ผู้คนนอกศาสนาพุทธ ได้สู้รบกัน และที่รู้จักดีคือทั้ง สงครามโลกครั้งที่ 1 และที่ 2 ทำให้มีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก แม้การต่อสู้ทางอากาศ มีลูกระเบิดจากเครื่องบินทำให้เกิดเป็นเพลิงเผาพลานไปทั่ว ทางพื้นน้ำก็มีการสู้รบกันทางเรือ ทั้งสองฝ่ายต่างเสียชีวิตเป็นอันมาก และแล้วก็เลิกรากัน ) พ.ศ. 2533 : เริ่มแต่ศาสนาตถาคตล่วงมาได้ ๒๔๘๕ ปี (พ.ศ. 2533) เป็นต้นไป ไฟจะลุกมาทางทิศตะวันออกไหม้วัดวาอาราม ( อธิบาย : พระสงฆ์ ครูอาจารย์ทางพุทธศาสนาเสื่อมลงตามทีพระผู้มีพระภาคตรัสไว้แล้ว ศาสนาและลัทธิอื่นยังเข้ามาเผยแพรในแดนพระพุทธศาสนา่ เดียรถีย์เพิ่มพูล ) สมณชีพราหมณ์จะอดอยากยากเข็ญ คนบ้านจะเข้าป่า ( อธิบาย : คนในเมืองบุกรุกป่า มีทั้งจับจองที่ดิน และหาผลประโยชน์จากป่า ) สัตว์ป่าจะเข้ากรุง ( สัตว์ป่าไม่มีทีหากิน เข้ามาหากินตามไร่สวนรบกวนผู้คน ) เมืองหลวงจะร้อนเป็นไฟ ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็นเพลิงผลาญ เหล็กกล้าจะทะยานจากน้ำ มหาสมุทรจะชอกช้ำ (เกิดมลพิษต่างๆ) สงครามจะทั่วทิศ ( สงครามในรูปแบบต่างๆ จะเกิดขึ้นมากมาย ) ศึกจะติดเมือง ทหารจะเป็นเจ้า ข้าวจะขาดแคลน ทั่วแคว้นจะอดอยาก พลูหมากจะหมดเปลือง ( คอร์รัปชั่นจักเกิดมาก ) ปราชญ์เปรื่องจะสิ้นสูญ ( คนดีไม่มีปากเสียง ) ราชตระกูลอำมาตย์ ราษฎรทุกคนจะพากันถืออำนาจไม่เป็นธรรม ไม่เคารพหลักธรรม โดยปรวนแปรนิยม เชื่อถือถ้อยคำของคนโกง คนกล่าวคำเท็จ คนประจบสอพลอย่อมได้รับการเชื่อถือในท่ามกลางสังคมสันนิบาต ( อธรรมจะได้รับการยกย่องเชื่อถือ ) ทางสองแพร่ง ( จากการวิเคราะห์ตามหลักทฤษฎี ) 1. พ.ศ. 2555 : เมื่อศาสนาของตถาคตล่วงมาได้ ๒๕๐๗ (ปีมะโรง พ.ศ. 2555) คน เปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน ( อธิบายไว้ในพุทธทำนาย ) 2. พ.ศ. 2556 : ล่วงได้ ๒๕๐๘ (ปีมะเส็ง พ.ศ. 2556) ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล ( โลกาวินาศ ) ล่วงได้ ๒๕๑๒ พ.ศ. 2560 : ล่วงได้ ๒๕๑๒ (ปีระกา พ.ศ. 2560) เมืองมนุษย์จะมืด ๗ วัน ๗ คืน โลกดิ่งสู่ความหายนะ บุคคลเจริญด้วยเมตตา กรุณา ไม่เบียดเบียนข่มเหงอิจฉาพยาบาทและไม่ประทุษร้ายซึ่งกันและกัน ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรม พ.ศ. 2560 : เมื่อศาสนาของตถาคตล่วงมาได้ ๒๕๑๒ ( ต่อจากปลายปีระกา ปีจอ พ.ศ. 2560) พระจันทร์จะเริ่มเปล่งแสงฉายโลก พ.ศ. 2563 : ครั้นล่วงได้ ๒๕๑๕ (ปีชวด พ.ศ. 2563 ) นับพ้นระยะปี ๓๐ ปี (จาก พ.ศ. 2533 - 2563) พวกอธรรม คือพวกที่ไม่ตั้งอยู่ในศีลในสัตย์ ไร้ซึ่งศีลธรรมนั้นจะหมดสิ้นไปเพราะพวกมิจฉาทิฐิจะดับสูญไปจากโลก อธรรมแพ้ในที่สุด ( เหตุการณ์ในปี พ.ศ. 2563 ) ส่วนนี้เป็นการกล่าว ถึงพระมหาเถรโพธิิสัตว์ และพระธรรมมิกราช ดังมีความดังนี้ มหากษัตริย์ธรรมิกราชผู้เป็นพระโพธิสัตว์ องค์หนึ่งจะเกิดภายในความอุปภัมถ์ของพระมหาเถระโพธิสัตว์ ( การตีความ แสดงว่า พระธรรมมิกราช นั้นอยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระมหาเถรโพธิสัตว์ ) ทั้งสององค์นั้น จะจัดการบำรุงศาสนาของตถาคต ในระยะนี้เป็น "ยุคศิวิไล" พ.ศ. 2502 : พระมหาเถระโพธิสัตว์ จะเกิดในสมัยของตถาคตล่วงมาแล้ว ๒๔๕๔ ปี ( พ.ศ. 2502 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงแสดงถึงความเป็นพระมหาโพธิสัตว์ และในเวลาปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ร.9 และในเวลาปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระมหาเถรโพธิสัตว์โดยสมบูรณ์ ) พ.ศ. 2515 – 2534 : เมื่อล่วงได้ ๒๔๖๗ ถึง ๒๔๘๖ ( พ.ศ. 2515 - 2534 ) พระมหา กษัตริย์ธรรมิกราชจะมาเกิด (ท่านอินทรา คนไทยในพุทธศาสนา มีถิ่นฐานอยู่ในสหรัฐอเมริกาได้อธิฐานบุญอันแรงกล้าในปี พ.ศ. 2534 และรู้อมตธรรมในเดือนมกราคม พ.ศ. 2535 หลังค้นหามากว่า 40 ปี ได้ด้วยตนเอง จึงนับว่าพระธรรมมิกราช ได้เกิดขึ้นแล้ว ) ทั้งสองพระองค์นั้นสถิตอยู่ ณ เบื้องทิศตะวันออกของมัชฌิมประเทศ ( พระโพธิสัตว์สองพระองค์จะอยู่ ณ เบื้องทิศตะวันออกของมัชณิมประเทศ หรือกล่าวได้ว่าเป็นไปในภาคกลางของประเทศเขตชมพูทวีป หรือทวีปของพระพุทธศาสนา มาทางทางตะวันออกที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข เมืองที่ประทับดังกล่าวคือกรุงเทพมหานครของประเทศไทย ) พ.ศ. 2561 – 2562 : ระหว่างปีจอปีกุน เมื่อศักราช ๒๕๑๓ กับ ๒๕๑๔ (พ.ศ. 2561 – 2562) ผู้มีบุญทั้งสองพระองค์นั้นจะเสด็จเข้าบำรุงศาสนาให้เที่ยงแท้สมณชีพราหมณ์ จะเสด็จมา ๘๔,๐๐๐ รูป ดูกรอานนท์ ตถาคตสงสารสัตว์ เวลานั้นพลโลกยังเหลือน้อยเต็มที ( ยกของเดิมมาคือ ตั้งแต่ พ.ศ. 2556 - 2563 = 30 ปี ) พวกอธรรม คือพวกที่ไม่ตั้งอยู่ในศีลในสัตย์ ไร้ซึ่งศีลธรรมนั้นจะหมดสิ้นไปเพราะพวกมิจฉาทิฐิจะดับสูญไปจากโลก ( นี่ี่คือคำตอบ "เวลานั้นพลโลกยังเหลือน้อยเต็มที" ) คำทำนายของตถาคตนี้ยังให้สัตว์ตั้งอยู่ใน ความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วเชื่อ หรือไม่เชื่อ ไม่บอกเล่าให้ผู้ใดรู้กันต่อ ๆ ไป นับว่าเป็นกรรมแห่งสัตว์ต่างสิ้นสุดกันตามกาลเวลา |
|
"พุทธิทุกขัง อนิจจัง อนัตตา นโมสัพพราชา ขัตติโย อิติ ปารมิตา ตึสา อิติ สัพพัญญุมาคตา อิติ โพธิ มนุปปัตโต อิติปิโส จ เต นโม"
|