เรื่องนี้ เสนอในรายการเสาร์ 5 วันสิ้นโลกทางเคเบิลทีวีและ www.miraclechanneltv.com จากหลักฐานจริงเกี่ยวกับภัยพิบัติสาระพัดทิศ และวิกฤติทุกข์ยาก เกิดโรคร้ายในทุกวันนี้ ตรงกับการพยากรณ์ หนทางรอดจากการล้างโลกจึงมีอยู่ทางเดียวเท่านั้น ผู้คนทั้งหลายจำเป็นต้องพิสูจน์ความจริงของพระจักรพรรดิ เพื่อพระองค์จักปรากฏ ด้วยปัญญาที่เกิดขึ้นจากพระองค์เองจักนำไปสู่สันติสุขและความยุติธรรมที่แท้จริง เป็นความจริงที่เรื่องนี้ย่อมมีทั้งผู้ไม่เห็นด้วย และผู้ที่ทำความเข้าใจ แต่อยากให้เราทุกคนกล้าสู้ความเป็นจริง
|
- ความจริงตามหลักฐานที่เกี่ยวข้องในพระพุทธศาสนา - เกี่ยวกับพยากรณ์ - ถ้าพระจักรพรรดิปรากฏพระองค์ จะหยุดการล้างโลกอธรรมได้อย่างไร - วันสิ้นสุดโลกจากปฏิทินของมายัน ยืนยันตรงกับพุทธทำนาย และนอสตราดามุส - ขณะนี้ นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของโลกพิสูจน์หลักฐานจากมนุษย์ต่างดาว ยอมรับว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริง ความจริงตามหลักฐานที่เกี่ยวข้องในพระพุทธศาสนา 1. พ.ศ. ไทยเร็วไปจากความเป็นจริงประมาณ 50 ปี หลักฐานแสดงอยู่ในพระพุทธศาสนา 2. หลักฐาน พ.ศ. เร็วไปกว่าความเป็นจริง 48 ปี ได้มาจากพุทธทำนายเกี่ยวกับพระมหาเถรโพธิสัตว์ และพระธรรมมิกราช ซึ่งจากการวิเคราะห์ตามหลักฐาน พระมหาเถรโพธิสัตว์ตือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราชเจ้า รัชการที่ 9 ในปัจจุบัน ที่พระองค์จักทรงอุปถัมภ์พระธรรมมิกราชคือพระจักรพรรดิหรือพระศรีอารย์ หรือพระศรีอาริยเมตไตรย และทั้งสองพระองค์จักทนุบำรุงพระพุทธศาสนาของตถาคตให้อยู่ครบ 5000 ปี ก่อนที่โลกแตกทำลายไป ซึ่งมายัน และ นอสตราดามุสบ่งไว้ว่าโลกจะถูกทำลายในเวลาใกล้เคียงกันด้วย ฉะนั้นการที่มีหลายคนเชื่อว่าพระศรีอารย์มาปรากฏหลัง พ.ศ. 5000 จึงขาดเหตุผล เพราะในเวลานั้นโลกมนุษย์ไม่มีผู้คนอยู่แล้ว พระศรีอารย์จะมาปรากฏทำไม เพื่ออะไร 3. พ.ศ. 5000 ไม่มีในพระไตรปิฎก ดังนั้นเรื่องใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับ พ.ศ. 5000 จึงไม่มีในพระไตรปิฎกด้วย 4. ความเชื่อที่พระศรีอารย์จักปรากฏเมื่อสิ้นสุดศาสนาของพระพุทธเจ้าโคตมหลังปี พ.ศ. 5000 จากนั้นจึงจักเกิดยุคใหม่ขึ้นคือ ยุคของพระศรีอารย์ ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีในพระไตรปิฎก แต่น่ามาจากฎีกามาลัยสูตร ซึ่งสันนิษฐานแต่งขึ้นราว พ.ศ. 2060 ในสมันรัชการที่ 3 ผู้แต่งชื่อพุทธวิลาส ชาวลานนา โดยมีเค้าโครงมาจากมาลัยวัตถุที่ปราชญ์ลังกาแต่งขึ้น ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นพระภิกษุ ในสมัยพระเจ้าปรักกมพาหุ เมื่อ พ.ศ. 1696 หลักสำคัญที่มีในพระมาลัยนี้คือ ศาสนาพระศรีอารย์ที่มีเค้ามาจากพุทธทำนาย โดยประมวลความเรื่องของสวรรค์ นรกและกุศลกรรมมาประกอบกัน 5. จากพยากรณ์ว่าโลกนี้มีพระศาสดา 1 พระองค์ และมีพระจักรพรรดิครอง 4 คาบสมุทร์อีก 1 พระองค์ พยากรณ์นี้มีมาก่อนสิทธัตถะกุมารประสูติ ดังนั้นเมื่อพระพุทธเจ้าโคตมเป็นพระศาสดาแห่งโลกนี้แล้ว ฉะนั้นจึงยังคงเหลือพระจักรพรรดิอีกหนึ่งพระองค์ ที่จักเกิดขึ้นบนโลก พระสารีบุตรเถระเอง มีความสนใจและได้ทูลถามพระพุทธเจ้าโคตมในเรื่องพระจักรพรรดินี้ ซึ่งพระพุทธเจ้าโคตมทรงตรัสตอบเรื่องพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ มีอยู่ในอนาคตวงศ์ ซึ่งพระองค์สุดท้ายคือพระจักรพรรดิหรือ "เพื่อนแท้" หรือ Metteya หรือ Maitreya นั้น จักเสด็จมาในยุคเดียวกันกับตถาคต ที่เรียกว่า "ภัทรกัป" หรือยุคแห่งความเจริญในปัจจุบัน ดังนั้นสรุปได้ว่า พุทธกาลตามพุทธทำนายมี 5000 ปี ดังนั้นพระจักรพรรรดิจึงมาปรากฏภายในภัทรกัปเดียวกัน จากเหตุผลทางพระพุทธศาสนาและพุทธทำนาย แสดงว่าพระจักรพรรดิจักปรากฏในกึ่งพุทธกาล หรือ พ.ศ. 2500 คือเวลาปัจจุบันนี้ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่ศาสนาอื่นๆ หวังผู้มีบุญที่พวกเขารอคอยจักมาในเวลาปัจจุบันเช่นกัน เพื่อความสันติสุขและความยุติธรรมที่แท้จริงของมนุษยโลกจักเกิดขึ้น 6. หลักฐานในพระไตรปิฏกที่น่าเกียวข้องการมาปรากฏของพระจักรพรรดิในปัจจุบัน เช่น 6.1 ความเสื่อมของพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนในปัจจุบัน และยังบ่งอยู่ในอนาคตวงศ์สรุปไว้ 5 ประการ ซึ่งเรื่องความเสื่อมนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับข้อ 6.2 6.2 พระพุทธเจ้าตรัสถึง ถ้าสตรีจักไม่ได้ออกจากเรือนบวช เป็นบรรพชิต ในธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว พรหมจรรย์จักตั้งอยู่ได้นาน สัทธรรมหรือคำตรัสสอนของพระพุทธเจ้าโคตมจะพึงตั้งอยู่ได้ตลอดพันปี แต่ก็เพราะสตรีออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต ในธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว บัดนี้ พรหมจรรย์จักไม่ตั้งอยู่ได้นาน สัทธรรมจักตั้งอยู่ได้เพียง ๕๐๐ ปีเท่านั้น ขอให้สังเกตุว่า จาก 1000 ปีลดลงเหลือ 500 ปี ก็คือลดลงครึ่งหนึ่ง :ซึ่งตรงกับพุทธทำนาย ที่พระจักรพรรดิจักมาช่วยจรรโลงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ให้ครบ 5000 ปีจึงมีเหตุผล ความเสื่อมของสัทธรรมนั้น ยังแสดงตามข้อ 6.3 6.3 ความผิดเพี้ยนของพระไตรปิฎกที่มีมาแต่สมัยโบราณก่อนแล้ว ดังมีข้อแสดงเช่น เอกสารเกี่ยวกับการชำระและการจารึก พระไตรปิฎก ในรัชกาลที่ ๑ (จากหนังสือพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา) ".... พระไตรปิฎกธรรมทุกวันนี้ ยังถูกต้องบริบูรณ์อยู่หรือพิรุธผิดเพี้ยนประการใด จึ่งสมเด็จพระสังฆราช และพระราชาคณะทั้งปวง พร้อมกันถวายพระพรว่า พระบาลี และ อรรถกถาฎีกาพระไตรปิฎกทุกวันนี้มีพิรุธมากมาช้านานแล้ว ...." (อ้างอิง: พระไตรปิฏก และ พระไตรปิฏกฉบับประชาชน โดยคุณสุชีพ ปุญญานุภาพ) 6.4 เรื่องพระพุทธศาสนาเสื่อมนั้นเป็นการพูดกันโดยทั่วไป เพื่อชี้ให้เห็นว่า ในเวลานี้สถานการณ์ของชาวพุทธเป็นอย่างไร แต่ถ้าจะคิดให้ถูกต้อง ควรพิจารณาว่า พระพุทธเจ้านั้นไม่เสือม พระธรรมคือคำตรัสสอนที่แท้จริงของพระพุทธองค์ไม่เสื่อม ยกเว้นมีพระสงฆ์เฉพาะรายเท่านั้นที่เสื่อม ทำให้เกิดการเสื่อม 5 ประการในทางศาสนาพุทธและส่วนหนึ่งของพุทธศาสนิกชน 6.5 เรื่องมหาสุบินชาดก 16 ข้อ ที่พยากรณ์เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน ที่มีทั้งวิกฤติ ข้าวยากหมากแพง ผู้มีอำนาจเอารัดเอาเปรียบประชาชน เป็นต้น 6.6 สำหรับเรื่่องของภัยพิบัติสารพัดทิศ บ่งอยู่ในพระมหาปรินิพพานสูตร ซึ่งมีความคล้องจองกับการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ฟิสิกส์ 7. เรื่องพระจักรพรรดิมาปรากฏในกึ่งพุทธกาล มีแสดงอยู่ในพยากรณ์อื่นๆ อีก เช่น พุทธทำนายที่คณะธรรมทูตไทยคัดลอกมาจากมหาวิหาร (วัดเขาอินทร์) ในสวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดีย และองค์พระเมตไตรยหรือพระจักรพรรดิต้องบุรพกรรม เรื่องนี้บ่งถึงเหตุการณ์บุรพนิมิตร้าย 10 ประการและเหตุการณ์ทางธรรมชาติที่จักเกิดก่อนหน้าพระจักรพรรดิปรากฏในกึ่งพุทธกาล ซึ่งเป็นจริงในปัจจุบัน เช่นในปี 2554 เกิดแผ่นดินไหวเดือนละหลายครั้ง สุริยคราสและจันทรคราสบ่อยครั้ง ในปี 2554 นี้มีถึง 6 ครั้ง ซึ่งตรงกับพยากรณ์ ข้อที่ควรคิด ทำไมเหตุการณ์ทางธรรมชาติที่มนุษย์ไม่สามารถบังคับได้ ถึงได้เกิดขึ้นตรงตามพยากรณ์ที่กำหนดไว้ก่อนหน้านับพันนับร้อยปี 8. จากหลักฐานรูปพระจักรพรรดิที่แกะสลักหิน ไม้ รูปหล่อ เป็นต้น ในประเทศต่างๆ นับเวลากว่า 1000 ปีมาแล้วนั้น เป็นรูปฆาราวาสหรือเทพเท่านั้น นั้นคือพระจักรพรรดิไม่ได้เป็นบรรพชิต เมื่อเป็นเช่นนี้ ศาสนาพระศรีอารย์ไม่มี แต่พระจักรพรรดิเป็นพระพุทธเจ้าคือผู้รู้เองโดยชอบ ในเรื่องของสันติสุขและความยุติธรรม ซึ่งเรื่องนี้มีบ่งอยู่ไม่เฉพาะในพระพุทธศาสนาแต่ยังบ่งอยู่ในศาสนาอื่นๆ เช่น อิสลาม และขงจื้อ จึงถือได้ว่าผู้ที่มาช่วยมนุษยโลกให้เกิดสันติสุขที่แท้จริงขึ้นนั้น คือพระพุทธเจ้านั่นเอง ตรงตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ข้อควรพิจารณา พุทธพยากรณ์ต่างๆ ควรถือว่าถูกหรือไม่ถูก น่าจะพิจารณาจากความเป็นจริง ความจริงนี้คือหลักฐานจากความเป็นจริงที่สามารถพิสูจน์ได้ ดังเช่นพุทธทำนาย ที่บ่งบอกถึงเหตุการณ์ในปัจจุบันนั้น ได้เกิดขึ้นเป็นจริงทั้งภัยพิบัติ ข้าวยากหมากแพง การคอร์รัปชั่นการติดสินบน เป็นต้น ฉะนั้นถ้าคำทำนายถูกต้องมาแล้วครึ่งหนึ่ง ที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งคือ การล้างโลกอธรรม เพื่อกำจัดคนมีบาปย่อมมีความเป็นจริงด้วย ประการสำคัญควรคิดว่า ทำไมทุกๆ ศาสนาสอนธรรมะแตกต่างกัน แต่เมื่อกล่าวถึงคำพยากรณ์เกี่ยวกับพระจักรพรรดินั้นกลับเหมือนๆ กัน และบ่งถึงวันพิพากษามนุษยโลกไว้เช่นเดียวกัน เกี่ยวกับพยากรณ์ 1. คำพยากรณ์ต่างๆ ทั้งที่บ่งอยู่ในศาสนาทั้งที่ยึดถือพระเจ้าและที่ไม่ยึดพระเจ้า ตลอดจนพยากรณ์จากผู้เห็นเหตุการณ์ในอนาคต ได้บ่งบอกเรื่องพระจักรพรรดิไว้มากมาย ดังเช่นเมืองที่พระจักรพรรดิจักมาจุติ คือ "กรุงเทพมหานคร อมรรัตรโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบูรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์" มีความหมายว่า เมืองของเทพ (ท้าวสักกะเทวราช) ที่ยิ่งใหญ่ อันเป็นอมตะประกอบด้วยแก้ว 7 ประการ (จากการวิเคราะห์จากศาสนาอื่นๆ ประกอบ คือ พระธรรม 7 ประการ) ของท้าวสักกะจอมเทพ (ผู้เป็นใหญ่ในสามโลก) ผู้ไม่เคยพ่ายแพ้แก่สัตรู (มาร) อันเป็นที่เกิดแห่งมงคลที่ยิ่งใหญ่ เป็นเมืองหลวงที่ประกอบไปด้วยแก้ว 9 ประการ ที่มีความงดงามมั่นคงและสง่างาม (คือ คือ เพชร ทับทิม มรกต บุษราคัม โกเมน นิล มุกดา เพทาย และไพฑูรย์ ซึ่งเรื่องของอัญมณีตรงกับหลักฐานความเชื่อเกี่ยวกับเมืองของเทพของศาสนาอื่นด้วย) เป็นสถานที่ยิ่งใหญ่และบริบูรณ์เป็นเลิศ เป็นสถานที่ประทับของท้าวสักกะฯที่จะแบ่งภาคมาเกิดบนโลกมนุษย์ โดยท้าวสักกะเป็นผู้ให้พระวิษณุกรรม (พระนารายณ์) มาสร้างขึ้นจนสำเร็จ 2. เรื่องพระจักรพรรดิคือพระเจ้าหรือท้าวสักกะเทวราชผู้ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่ามีพระองค์จริง มาจุติ (ใช้กับเทพ) ที่กรุงเทพฯ เป็นข้อมูลตรงกันกับคำทำนายของนอสตราดามุส ที่บ่งไว้ว่าพระจักรพรรดิจะประสูติที่เมืองที่เคยเป็นทะเลมาก่อนและเมืองนี้วัดขอบเขตไม่ได้ ซึ่งเป็นความจริงที่กรุงเทพฯ เคยเป็นทะเลมาก่อน และเป็นเมืองเทวดาบ่งตามชื่อ ซึ่งเมืองเทวดาไม่สามารถวัดขอบเขตได้ นอกจากนี้ยังมีคำทำนายอื่นๆ บ่งบอกถึงเวลาประสูติของพระจักพรรดิเมื่อสงครามโลกครั้งที่สองที่ผ่านมา 3. เรื่องของพระจักรพรรดิ มาปรากฏในปัจจุบันยังมีหลักฐานสนับสนุนมากนับได้ประมาณ 30-40 พยากรณ์ ที่สามารถทำให้ผู้คนส่วนมากทั่วโลกเข้าใจได้ ด้วยการนำมาพิสูจน์หาข้อเท็จจริง โดยเฉพาะเรื่องพระจักรพรรดิจักปรากฏในปัจจุบัน 4. พระจักรพรรดินั้นคือท้าวสักกะเทวราช เทพผู้ครองสามโลก หรือพระเจ้าของศาสนาต่างๆ ซึ่งเป็นพระองค์เดียวกัน พระองค์ู้เป็นเทพผู้สร้างทุกสิ่งทุกอย่างให้กับโลกต่างๆ และ จักรวาล พระองค์มาจุติเป็นพระจักรพรรดิ มนุษย์ผู้ยากไร้ เรื่องนี้มีบ่งอยู่ในพระไตรปิฎก ในเรื่องของท้าวสักกะเทวราช และในคำภีร์ของศาสนาอื่นๆ ที่บ่งไว้คล้องจองกัน ข้อควรคิดพิจารณาในการปรากฏของพระจักรพรรดิ การที่พระจักรพรรดิจักปรากฏได้ในปัจจุบัน ย่อมต้องมีหลักฐานจากโบราณกาลมาสนับสนุน ซึ่งในที่นี้คือพยากรณ์นั่นเอง ถ้าคำพยากรณ์โลกต่างๆ ถูกต้อง ซึ่งพยากรณ์ต่างๆ มีหลักฐานความถูกต้องมากมายหลายสิ่งแล้วในปัจจุบัน ดังนั้นพระจักรพรรดิก็ควรมีพระองค์จริง จุดยืนของมนุษยชาติในปัจจุบัน ในเวลานี้มนุษยโลกอยู่บนทางสองแพร่งที่จะต้องเลือกทางเดินเอาเอง คือพิสูจน์ความจริงในเรื่องพระจักรพรรดิ เพื่อพระจักรพรรดิพระองค์จริงจักปรากฏได้ และพระองค์จักนำมนุษย์ให้รอดพ้นการล้างโลกได้ด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นย่อมขึ้นอยู่กับมนุษยโลกเอง หรือถ้ามนุษย์ไม่สนใจในการหาความจริงเรื่องพระจักรพรรดิ คืออยู่บนหนทางของมิจฉาทิฐิ การล้างโลกอธรรมจำเป็นต้องกวาดล้างคนบาปให้หมดไปจากโลก เพื่อกฤดายุค ยุคแห่งอริยปัญญาที่มนุษย์จักคิดได้ด้วยตนเองหรือรู้จักการใช้อริยศาสตร์จักเกิดขึ้นได้ จากความเชื่อในบางกลุ่มของพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนที่เชื่อตามที่ถูกสั่งสอนตามกันมาว่า พระศรีอารย์จักมาปรากฏในช่วงเวลาหลังปี พ.ศ. 5000 หรือที่ไม่ใช่ในกาลปัจจุบัน ย่อมเป็นสิทธิของท่านผู้นั้น ดังนั้นการหาความจริงในเรื่องพระจักรพรรดิที่ไม่เป็นเรื่องเสียหายใดๆ เราทั้งหลายจึงไม่ควรปฏิเสธ แต่ควรสนับสนุนหาความจริงในเรื่องนี้ เพื่อสันติสุขและความยุติธรรมที่แท้จริงจักเกิดขึ้นกับทุกๆ คนหลังจากพระจักรพรรดิหรือพระศรีอารย์ปรากฏพระองค์ สรุป การกำหนดขอบเขตกุศลปัญญาของตน ย่อมขึ้นอยู่กับตนเอง ถ้าพระจักรพรรดิปรากฏพระองค์ จะหยุดการล้างโลกอธรรมได้อย่างไร พระจักรพรรดิตามพยากรณ์คือท้าวสักกะเทวราช ผู้ปกป้องพระโพธิสัตว์ พระพุทธศาสนา ในทุกยุคสมัย พระองค์เป็นผู้กำหนดแผ่นดิน ไฟ น้ำ จักเลวร้ายยิ่งถ้าผู้คนผิดศีลธรรม หรือจักเป็นไปด้วยดีถ้ามนุษย์อยู่ในศีลธรรม ดังนั้นเมื่อพระองค์เป็นผู้กำหนดขึ้น พระองค์ย่อมหยุดสิ่งที่พระองค์กำหนดได้ วันสิ้นสุดโลกจากปฏิทินของมายัน ยืนยันตรงกับพุทธทำนาย และนอสตราดามุส ปฏิทินมายันแบ่งเป็นสองชุด ทั้งสองชุดจะประกอบด้วยวันเป็นสำคัญ ไม่มีปี โดยรูปการทำงานของปฏิทินเป็นเหมือนเฟืองนาฬิกา ที่โดยผลทั้งหมดแสดงในรูปของจำนวนวันที่ผ่านไปและจะเกิดขึ้นเท่านั้น ปฏิทินชุดแรกเรียกว่า Tzolkin มี 13 วันกับ 20 ชื่อ ใช้นับ 260 วันในช่วง 1 รอบของโลกรอบดวงอาทิตย์ ปฏิทินนี้จะครบรอบที่เดิมในทุก 52 ปี Tzolkin นี้น่าจะใช้เพื่อการเกษตรในรอบปีหนึ่งๆ และ อีกปฏิทินหนึ่งเรียกว่า Haab โดยใช้เลขฐาน 20 ในการนับ คือ 20 วัน กับ 18 เดือนในรอบ 1 ปี Haab ใช้สำหรับการนับยาว ยาวขนาดที่สามารถนับกลับไปหาจุดกำเหนิดของโลกนี้ได้ Haab หรืออะไรจะเกิดขึ้นกับโลก เช่น นักโบราณคดีพบว่า ในรอบที่ 5 ของ Haab ที่เริ่มต้นมาเมื่อ 11 สิงหาคม 3114 ปีก่อนคริสต์กาล และจะสิ้นสุดลงที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2012 ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากนักวิจัยมากกว่าวันที่ 23 ธันวาคม 2012 จึงเป็นที่น่าสังเกตุว่าปฏิทินของชาวมายันบ่งบอกวันสิ้นสุดโลกใกล้เคียงกับพุทธทำนายที่บ่งถึงโลกแตกสลายหลังจากพุทธกาล คือ พ.ศ. 5000 หรืออีก ประมาณ 2500 ปีจากเวลานี้ และจากการคำนวณทางดาราศาสตร์ของนอสตราดามุสได้บ่งบอกวันสิ้นสุดโลกไว้หลังจากพุทธกาลคือ พ.ศ. 5000 เช่นกัน จากข้อมูลที่ตรงกันจากหลายแห่ง น่าจะบ่งบอกว่าโลกไม่แตกหรือสิ้นสุดในปัจจุบัน แต่จากข้อมูลต่างๆ แสดงถึงการล้างโลกอธรรมเป็นเรื่องที่มนุษย์ไม่ควรประมาท เพราะทั้งมายัน พุทธทำนาย คำทำนายของทุกศาสนาหลักของโลก และผู้มีญาณพิเศษเห็นอนาคตกาลได้ ต่างบ่งว่า ยุคใหม่จักเกิดได้ จำเป็นต้องล้างยุคเก่า ยกเว้นผู้มีบุญจักช่วยไว้ไม่ให้เกิดการล้างโลกขึ้น ท่านไม่จำเป็นต้องเชื่อ แต่ควรพิจารณาข้อมูลที่มีมาแต่โบราณกาล สิ่งหนึ่งที่ชาวมายันบ่งไว้คือการกลับมาของเก็กซากัว หรือ กูกูกัน หรือพระจักรพรรดิ ในเวลาปัจจุบันนี้ โดยมีสุริยุปราคาชี้บ่ง ซึ่งคล้ายกับการมาของพระจักรพรรดิจากเรื่ององค์พระเมตไตรยต้องบุรพกรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรพิจารณา ไม่ควรเพิกเฉยเสีย ขณะนี้ นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของโลกพิสูจน์หลักฐานจากมนุษย์ต่างดาว ยอมรับว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริง มนุษย์ต่างดาวได้ทำ Crop Circle หรือการล้มต้นข้าว เช่น ข้าวสาลี หรือ ข้าวบาเรย์ หรือ ข้าวไรย์ เป็นต้น ให้เป็นรูปภาพต่างๆ โดยอาศัยหลักการคำณวนเหมือนนักคณิตศาสตร์โลกใช้ ข้อมูลที่มนุษย์ต่างดาวสร้างขึ้น เท่าที่มีผู้คอยตรวจับถ่ายภาพได้ จะใช้เวลารวดเร็ว เหมือนสายฟ้า แต่เมื่อไรที่เห็น Crop Circle จำเป็นต้องพิสูจน์ก่อนว่าไม่ใช่เป็นฝีมือของมนุษย์ทำขึ้นมา ซึ่งส่วนใหญ่สามารถพิจารณาได้ไม่ยาก จาก Crop Circle พอทราบว่าดวงอาทิตย์จะเกิดระเบิดรุนแรงขึ้นในไม่ช้าจากนี้ และที่สำคัญ มนุษย์ต่างดาวยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับพระจักรพรรดิที่จักมาปรากฏไม่นานจากนี้ด้วย ถ้าแปล Crop Circle ไม่ผิด มนุษยต่างดาวยังแสดงถึงพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลจากมนุษย์ต่างดาวทำให้ทราบว่า พวกเขามีเทพเจ้าองค์เดียวกับมนุษย์ และรู้จักพระจักรพรรดิของมนุษยโลก สำหรับท่านผู้ที่ต้องการค้นคว้ารายละเอียดต่างๆ โปรดดูข้อมูลได้จากเรื่องที่ปรากฏบน www.metteya.org ขอขอบคุณท่านผู้สนใจ และต้องขอโทษอย่างมาก ที่ข้อมูลและภาพที่ยังไม่ได้นำมาลงในที่นี้ จะพยายามนำมาเผยแพร่ในโอกาสต่อไป เวปใน metteya.org เกี่ยวข้องกับข้อความข้างบน ที่ท่านควรศึกษา
พระศรีอารย์ในพระไตรปิฎก ๒๐ กัณฑ์ |
14 กค.. 2554 |
กลับไปหน้าแรกของ metteya.org |