บั้งไฟพญานาคคืออะไร ความจริงที่ควรอ่าน
|
เรื่องบังไฟพญานาคน่าสนใจศึกษา โดยนายนิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี ชี้แจงว่า นายอภิรัตน์ชัย จอมศรี ผู้สื่อข่าวไทยรัฐหนองคายมากว่า 30 ปี ได้บัญญัติศัพท์ "บั้งไฟพญานาค" ขึ้นเมื่อ 20 ปีก่อนแทนคำว่า "บั้งไฟผี" ที่คนเฒ่าคนแก่เรียกตามกันมา "บั้งไฟผี" ฟังดูน่ากลัวทำให้ไม่มีใครสนใจ แต่พอเป็น "บั้งไฟพญานาค" ทำให้คนอยากรู้อยากเห็น จนกระทั่งมีผู้พิสูจน์ว่าบั้งไฟพญานาคคืออะไรเกิดขึ้น แต่การชี้แจงของบุคคลเหล่านี้ต่างกับทางตะวันตกตรงที่เป็นความเชื่อที่ขาดหลักวิชาการสนับสนุนสมมุติฐานของตน แต่ได้ผลบ้างเมื่อทำความเข้าใจผิดให้เกิดขึ้นกับคนไทยบางคนที่เชื่อคล้อยตามไป ตามประสบการณ์ของคนท้องถิ่นทั้งไทยและลาวทราบว่า บั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นในลำน้ำโขง สระน้ำ นาข้าว บ่อน้ำที่สร้างขึ้น ซึ่งถึงแม้น้ำจะแห้งไปแล้วแต่ดินยังหมาดอยู่ โดยเกิดเฉพาะวันออกพรรษาของลาวทุกๆ ปี จากการสนทนากับคณะอาจารย์และนายจันทรา วงศ์สา อาจารย์ใหญ่โรงเรียนมัธยมบ้านโดมของลาว ยังทราบว่าเวลาเงียบสงัดจะได้ยินเสียงพั๊บเมื่อบั้งไฟพญานาคพ้นน้ำขึ้นมา สำหรับข้อมูลอื่นๆ เช่น บั้งไฟพญานาคจะขึ้นพ้นน้ำก่อนประมาณ 10 เมตรถึงจะเห็นเป็นบั้งไฟพญานาคและสูงขึ้นไปประมาณ 100 กว่าเมตรหรือต่ำกว่าแล้วดับไป สำหรับขนาดของบั้งไฟพญานาคนั้นไม่คงที่ แต่ประมาณไม่ใหญ่เกิน 10 เซนติเมตร สำหรับการกล่าวว่าบั้งไฟพญานาคเป็นแก๊สธรรมชาติย่อมเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะจะใช้แรงดึงดูดของโลก ดวงจันทร์ พระอาทิตย์มาอธิบายนั้นไม่มีเหตุผล เพราะแรงดึงดูดสูงสุดจะอยู่ในช่วง 15 ค่ำหรือแรม 1 ค่ำที่ใกล้กับวันที่ 2-5 มกราคมและยังต้องดูเพอร์จี( Perigee) ประกอบด้วย สำหรับผู้เคยเห็นบั้งไฟพญานาคแล้วควรบอกได้ว่าต่างกับกระสุนส่องแสงได้เช่น ความเร็วของบั้งไฟพญานาคประมาณ 20 เมตร/วินาที ซึ่งช้ากว่าลูกปืนส่องแสงที่เร็วกว่า 180 เมตร/วินาที ความสูงและแสงสีต่างกัน เป็นต้น เรื่องพญานาคมีในคัมภีร์พระเวท หรือที่พระพุทธเจ้าตรัส หรือเกจิอาจารย์ได้กล่าวถึงนั้น ควรศึกษาีด้วย ในทางวิทยาศาสตร์ทั้งการแพทย์และการทหารได้วิจัยพลังงานเร้นลับที่มีอยู่ในบุคคล ซึ่งบางคนเข้าถึงได้ด้วยสมาธิ เช่น พระธิเบตใช้ิทูมโมสร้างความร้อนในสภาพอากาศหนาวเย็นจัดได้ หรือการเคลื่อนย้ายวัตถุชิ้นเล็กๆโดยไม่สัมผัส หรือการบังคับการเต้นของหัวใจทั้งคนและสัตว์ให้ช้าลงเร็วขึ้นได้ การแพทย์ในปัจจุบันใช้สมาธิในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งและระงับความเจ็บปวด ทางทหารคิดถึงการใช้เดินทางนอกโลก เป็นต้น ทั้งรัสเซียและสหรัสฯมุ่งค้นหาความลับเหล่านี้ คนไทยอยู่กับกองความรู้แต่อาจคิดว่าเป็นเรื่องเพ้อเจ้อจึงไม่สนใจ เรื่องบั้งไฟพญานาคพุ่งขึ้นสู่อากาศแล้วติดไฟได้ ความเป็นไปได้ทางหนึ่งคือมีพลังงานเร้นลับเป็นตัวกระทำร่วมกับธาตุที่มีอยู่บนโลก สำหรับการเกิดบั้งไฟพญานาคในวันออกพรรษายังมีเหตุผลอยู่ และถึงแม้บั้งไฟพญานาคไม่ใช่แสงมาร์ฟา(Marfa) หรือแสงผี แต่ที่เหมือนกันคือยังไม่มีทีมนักวิทยาศาสตร์ไหนตอบได้ว่าแสงมาร์ฟาคืออะไร ศึกษาสิ่งเร้นลับเหนือธรรมชาติเช่นบั้งไฟพญานาค หรือโยคีจานิมีชีวิตโดยไม่ทานหรือดื่มอะไรมา 70 ปี ยังดีกว่าจะเป็นนักวิทยาศาสตร์เทียมทำให้คนเชื่อโดยขาดหลักฐานที่แสดงให้เห็นจริงได้ รูปบั้งไฟพญานาคที่แสดงประกอบพิสูจน์ได้ว่าเป็นของแท้
|
28 ธค. 2554 |
กลับไปหน้าแรกของ metteya.org |