โปรดศึกษาให้เข้าใจ เพราะมีความสำคัญยิ่งกับชีวิตและวิญญาณของท่าน ในวันล้างโลกอรรมในปลายปี 2555 (ชาวมายัน) ปี 2556 (พระพุทธเจ้า) ตามหลักฐานข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ พระพุทธเจ้าโคตมไม่ได้ตรัสสอนศีล 5
|
เรื่องต่อไปนี้ท่านไม่ต้องเชื่อ แต่ขอให้ยึดกาลามสูตรเป็นหลัก ข้อมูลที่นำมาลงไว้นี้ พิสูจน์ได้ว่า พระพุทธเจ้าโคตมไม่ได้ตรัสสอน ศีล 5 แน่นอน พระสูตรจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้าโคตม (พระสูตรที่้พระสงฆ์ต้องท่องจำ้ได้) พระสูตรที่สำคัญ ๆ ที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนฆราวาส ตามที่พระอานนท์เล่ามา .... (คำตรัสสอนจากพระโอษฐ์) ดังเช่น กาลามสูตร
(บาลีเรียก เกสปุตติสูตร ) และ สิคาลกสูตร พระพุทธเจ้าจะเน้น กรรมกิเลส 4 ไม่ฆ่า ๑ ม่ลักทรัพย์๑ ไม่พููดปด๑ ไม่ผิดภรรยาผู้้อื่น๑ แยกออกมาจากเช่น สุรา การพนัน อย่างชัดเจน ไม่เอามาปะปนกัน ความสำคัญยิ่งของกรรมกิเลสเป็นอย่างไรหรือ กรรมกิเลส 4 คือ การฆ่า ๑ การถือเอาของที่เจ้าของไม่ให้ ๑ ประพฤตืผิดในกาม ๑ และพูดเท็จ ๑ ถือว่าเป็นเครื่องเศร้าหมอง เสื่อมเสียความประพฤติ เป็นบาป(อกุศลกรรม) ที่แก้ไขไม่ได้ และแม้แต่ในมหาสติปฏฐานสุตฺตํ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ชัดเจน ในเรื่องเกี่ยวข้องกับกรรมกิเลส 4 แต่ พระผู้มีพระภาคไม่ได้ตรัสถึงเรื่องสุราในมหาสติปฏฐานสุตฺตแม้แต่คำเดียวเช่นกัน พระพุทธเจ้าโคตมไม่ตรัสเรื่องศีล 5 จากหลักฐานพระสูตรจากพระโอษฐ์ที่สำคัญๆ แสดงว่า พระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสเรื่องของศีล 5 อย่างแน่นอน ซึ่งจะอธิบายต่อไปนี้ เรื่องของสุราที่เข้ามารวมกับกรรมกิเลส 4 กลายเป็นศีล 5 นั้น มีพิรุษ ยกตัวอย่างเช่น ปะปนธรรมะต่างระดับ ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าพระพุทธเจ้าโคตมจะไม่ทรงทำเช่นนั้นแน่นอน ตัวอย่าง เช่น อาบัติปาราชิก ที่พระสงฆ์ถูกตัดจากการเป็นสมณเพศ และไม่สามารถกลับมาบวชใหม่ได้ มี 4 ข้อ คือ 1. เสพเมถุน (ผิดทางกาม) 2. ลักขโมย 3. ฆ่ามนุษย์ให้ตาย 4. อวดคุณวิเศษที่ไม่มีในตัวให้ปรากฏ (พูดเท็จเช่นอวดอ้างตนเอง) ซึ่งก็คือกรรมกิเลส 4 ประการนั่นเอง สำหรับดื่มสุรานั้น เป็นเพียงแค่อาบัติปาจิตตีย์ ซึ่งเป็นอาบัติเบา โปรดพิจารณาน้ำหนักของอาบัติมีดังนี้ กล่าวโดย อาบัติมี ๗ อย่าง คือ
๑ ปาราชิก อาบัติหนักแก้ไขไม่ได้
พ้นเป็นพระสงฆ์ กลับมาอีก่ไม่ได้
พระพุทธเจ้าโคตมเป็นผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ ย่อมรู้กาลในเบื้องหน้า เบื้องหลังและในปัจจุบัน ย่อมไม่ปะปนธรรมะต่างระดับไว้ด้วยกันอย่างแน่นอน พิสูจน์ได้จากพระสูตรจากพระโอษฐ์ต่างๆ พระผู้มีพระภาค กำหนดสุราไว้ในระดับการเล่นการพนัน การเที่ยวเตรในยามวิกาล การคบหาสมาคมกับคนชั่วนำไปสู่ความฉิบหาย เป็นต้นนั้น เป็นเรื่องแห่งความประมาท (ศึกษาได้จากสิคาลกสูตร) ข้อควรคิดพิจารณา เกี่ยวกับการพนัน ถ้าจะถามถึงผลเสียหายของการเล่นการพนัน ที่ผิดกฏหมายบ้านเมือง และมีผลเสียกว่าการดื่มสุรามาก ถ้าพระพุทธเจ้าโคตมกำหนดสุรารวมกับของกรรมกิเลส 4 เป็นศีล 5 แล้ว ทำไมพระพุทธองค์ถึงไม่รวมการเล่นการพนันไว้กับกรรมกิเลส 4 และการดื่มสุราของมึนเมาด้วย ถ้าท่านใดได้ศึกษาเรื่องของสุรา และถ้าท่านใช้สุรา้ให้ถูกวิธี ไม่ประมาท ไม่ขาดสติ อาจมีประโยชน์ เช่น ความสุขในครอบครัว การรักษาสุขภาพเช่น เกี่ยวกับโรคหัวใจ เป็นต้น แต่ถ้าไม่จำเป็นแล้ว เราควรเว้นห่างจากสุรา เพราะเป็นของไม่จำเป็น เสียทรัพย์ เป็นหนทางนำไปสู่ความประมาท และนำไปสู่กรรมกิเลส 4 ได้ง่ายด้วยการขาดสติ และเกิดความประมาท เป็นต้น เมื่อผู้ไม่รู้จริงเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพิ่มเติมคำตรัสสอนของ ผู้มีพระภาค ทำให้พระพุทธพจน์หม่นหมอง เช่น เอาสุราเข้ามาปะปนกับกรรมกิเลส 4 เป็นต้น แล้วกลายเป็นศีล 5 เรื่องนี้พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในพุทธทำนายล่วงหน้าถึงการปลอมแปลงของมารมาสิง สใหู้่แก้ไขคำตรัสสอนของพระพุทธองค์ สิ่งหนึ่งที่อาจไม่มีใครเห็น อาจไม่มีใครพิจารณา คือ เมื่อผู้ไม่รู้จริง ไม่ตั้งใจ ด้วยความปรารถนาดี โดยปลอมแปลงคำตรัสสอนของพระผู้มีพระภาค เกิดเป็นศีล 5 ขึ้นมา เมื่อเกิดความเสื่อมของศีล 5 ที่เข้ามาปลอมแปลงนี้ ทำให้มีผลโดยตรงกับการสอนพระพุทธศาสนา ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทุกวันนี้ คือเมื่อสุราเป็นของคู่กับผู้ชายมาแต่ไหนแต่ไร การห้ามสุราเป็นการยาก ในทางจิตวิทยาเมื่อผู้กระทำผิดศีลอย่างหนึ่ง ก็นำไปสู่การทำผิดศีลข้ออื่นๆ ได้ง่ายขึ้นด้วย เช่น พูดปด แต่ถ้ามีเฉพาะกรรมกิเลส 4 ที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนจากพระโอษฐ์ คือ ไม่ฆ่า ๑ ม่ลักทรัพย์๑ ไม่พููดปด๑ ไม่ผิดภรรยาผู้้อื่น๑ พุทธศาสนิกชนจะปฏิบัติตนได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ ถ้าการดื่มสุราเมื่อไม่มีการบังคับ แต่สอนให้ถูกวิธีตามที่พระพุทธเจ้าตรัสจากพระโอษฐ์ จะทำให้การดื่มสุราลดน้อยลงได้ อย่างเช่นศาสนาคริสต์ที่คนของเขาไม่มีศีลห้าม แต่พวกเขาไม่ติดสุรา คิดถึงความเป็นจริงว่าทำไม ท่านจะคิดออกเองได้ สรุป ทำไมสุราเป็นของห้ามยาก อาจด้วยเหตุที่ว่า สุราเป็นเรื่องของชาวบ้าน เป็นเรื่องของสังคม ผู้คนอยู่กับสุรามีมาแต่โบราณกาลของทุกชาติทุกสมัย เมื่อนำการดื่มสุราเข้ามาไว้ในศีล 5 ด้วยเหคุนี้เอง ทำให้ผู้ดื่มสุราที่ไม่สามารถเลิกสุราได้ ยกเว้นสุราได้ อาจนำพาหรืออาจนำคนอื่นให้ผิดศีลอื่นๆ ในศีล 5 ด้วยได้ง่าย เพราะเหตุที่ว่าเมื่อมีผู้ปฏิบัติผิดศีลในข้อสุรานี้ อาจทำให้เกิดความเคยชิน กระทำผิดอย่างนี้ ก็กระทำผิดศีลอีกอย่างหรือมากกว่า เหมือนกฏหมายบ้านเมืองที่ปล่อยปละละเลย ทำให้ประชาชนละเลยในการปฏิบัติตามกฏหมายไปด้วย แต่ถ้าแยกสุราออกจากกรรมกิเลส 4 แล้ว ผู้คนย่อมมีโอกาศยำเกรงบาปกรรมของกรรมกิเลส 4 มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ถ้ามีผู้สงสัยว่า ถ้าไม่มีศีล 5 แล้ว คนทั้งหลายจะเป็นคนเสื่อมด้วบสุรานั้น
เราไม่ควรกล่าวเช่นนั้น และที่เป็นจริง และที่เป็นมาจนถึงปัจจุบัน
ถึงแม้จะมีการรณรงค์อย่างกว้างขวางเรื่องศีล 5
ถามว่าสามารถหยุดการดื่มสุราได้ไหม ตามข้อเท็จจริงแล้ว ถ้ามีการสอนให้ถูกวิธีการ ผู้คนจะห่างจากสุรามากกว่าการบังคับกันด้วยศีล 5 ที่ปลอมแปลงเข้ามานี้ เหมือนคนโบราณกล่าว "ยิ่งห้าม เหมือนยิ่งยุุ" ขอให้พิจารณาเรื่องต่อไปนี้ พระไตรปิฎก เล่มที่ ๕ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๕ มหาวรรค ภาค ๒
ก็โดยสมัยนั้นแล ท่านพระปิลินทวัจฉะอาพาธเป็นโรคลม พวกแพทย์ปรึกษา
ตกลงกันอย่างนี้ว่า ต้องหุงน้ำมันถวาย
ภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค. พระผู้มีพระภาค
ตรัสอนุญาตแก่ภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตน้ำมันที่หุง
ในน้ำมันที่หุงนั้นแล แพทย์ต้องเจือน้ำเมาด้วย
ภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค.
พระผู้มีพระภาคตรัสอนุญาตแก่ภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เราอนุญาตให้เจือน้ำเมาลง ในน้ำมันที่หุง
ลักจั่น : [ลักกะจั่น] น. นํ้าเต้าหรือภาชนะดินรูปคล้ายนํ้าเต้า สําหรับบรรจุนํ้าในเวลาเดินทางอย่างที่พระธุดงค์ใช้ (พจนานุกรม) พระพุทธเจ้าโคตมทรงทราบเกี่ยวกับสุรานั้นไม่ใช่แต่ให้โทษเพียงอย่างเดียว สุรามีประโยชน์ถ้าเรารู้จักใช้ไม่ประมาท และมีสติอยู่เสมอ ตามที่มีบ่งอยู่ในมงคลสูตร ที่พระพุทธเจ้าตรัสจากพระโอษฐ์ในตอนหนึ่งว่า อารตี วิรตี ปาปา - การงด การเว้น จากบาป ๑
ในปัจจุบันงานทางวิทยาศาสตร์เจริญก้าวหน้า สามารถยืนยันข้อเท็จจริง เช่น เหล้าองุ่นแดงมีประโยชน์โดยเฉพาะการหยุดเซลล์ไขมัน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแก่ระบบไหลเวียนโลหิตทำให้เส้นเลือดแข็งแรงขึ้น ป้องกันการเกิดโรคหัวใจและโรคมะเร็ง (ข้อมูลเหล่านี้จะค้นคว้าหาได้เอง) ตัวอย่าง เช่น ข่าวการแพทย์ที่ผลการวิจัยเป็นที่ประจักว่าเหล้าองุ่นแดงให้ประโยชน์แก่ผู้ ดื่ม (จะสังเกตุว่า การดื่มของชาวตะวันตกจะมีขอบเขตที่กำหนดไว คือประมาณ 1 แก้ว ซึ่งอาจไม่เหมือนคนไทยบางคนที่ดื่มสุราด้วยความประมาท ขาดสติ) By Katrina Woznicki
WebMD Health News
Reviewed by Laura J. Martin, MD
June 21, 2010
- How does drinking red wine manage to keep the cardiologist at bay?
Two studies suggest different approaches as to how merlots and cabernet
sauvignons and other types of red wine offer heart-healthy benefits.
จะสังเกตุได้ว่า ผู้อยู่ในประเทศที่มีอากาศหนาว ในเฉพาะวันที่มีอากาศหนาวจัด หรือจำเป็นต้องออกจากที่พักอาศัยในวันดังกล่าว เขาจะดื่มเหล้าเพียงแก้วเล็กๆ ที่กำหนดเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น และไม่ทำให้เมาหรือขาดสติ สำหรับเวลาอื่นๆ เขาจะไม่ดื่มเลย คำตรัสสอนของพระพุทธเจ้าโคตมไม่ใช่ให้เฉพาะเพียงชนบางกลุ่ม บางประเทศ แต่เพื่อชนทุกชาติทุกพื้นที่ ไม่ว่าเมืองร้อนเมืองหนาวบนโลกนี้ ตามข้อเท็จจริง การศึกษา การปฏิบัติของพุทธศาสนิกชน ขาดความเข้าใจไหม หรือทำไปเพราะไม่ศึกษาเพียงพอ เช่นกาลามสูตร หนทางสู่สรวงสวรรค์ มีใครเคยพิจารณาบ้าง พุทธศาสนิกชนจะมีสักกี่คนเข้าใจในข้อเท็จจริง กาลามสูตรเป็นเป้าหมายหนึ่งที่พระพุทธเจ้าโคตมตรัสสอนหนทางแก่ฆราวาสและบรรพชิตให้มีโอกาสไปสู่สรวงสวรรค์ เป็นต้น โดยพระผู้มีพระภาคชี้ชัดเจนว่า ผู้ไม่มีเวร ผู้ไม่มีบาป ผู้มีกุศลวิบากเท่านั้นที่มีโอกาศไปสู่สวรรค์ ผู้สนใจกาลามสูตรฉบับเต็ม ดูได้จากลิงค์ข้างล่าง |
ลิงค์ กาลามสูตร ฉบับเต็ม |
สิ่งที่พระพุทธเจ้าโคตมตรัสพยากรณ์ไว้ ถึงสาเหตุการสอน การศึกษา การปฏิบัติทางพระพุทธศาสนาจึงเสื่อมด้วยเหตุ 5 ประการ โดยหมายความถึง พระพุทธศาสนาไม่เสื่อม เพราะองค์ประกอบหลักคือพระพุทธเจ้าไม่เสื่อม พระธรรมไม่เสื่อม และพระสงฆ์ไม่เสื่อม แต่ผู้รู้ ผู้ปฏิบัติเสื่อมด้วยเหตุ 5 ประการ แสดงในอนาคตวงศ์ 1 การเสื่อมของการบรรลุมรรผล พระไตรปิฎกมีพิรุษมาก มาช้านาน ยืนยันตามจดหมายเหตุของรัชกาลที่ ๑ อันมีความตอนหนึ่งว่า "พระไตรปิฎกธรรมทุกวันนี้ ยังถูกต้องบริบูรณ์อยู่หรือพิรุธผิดเพี้ยนประการใด จึงสมเด็จพระสังฆราชพระราชาคณะทั้งปวง พร้อมกันถวายพระพรว่า พระบาลี และ อรรถกถาฎีกาพระไตรปิฎกทุกวันนี้พิรุธมาก มาช้านานแล้ว" มารแก้ไขดัดแปลงคำสอนของพระพุทธเจ้าโคตม พระไตรปิฏก ๒๐ กัณฑ์ โดย อจ.ธวัช เที่ยงประภัสสร์ ปธ. ๙ วัดเบ็ญจมบพิตร รวบรวมไว้เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๘ (มีอยู่ในห้องสมุดของวัดเบ็ญจมบพิตร) สรุปว่า พระพุทธเจ้าโคตมตรัสถึง พระพุทธศาสนาถูกแบ่งไปเป็นสี่ส่วน คือ พราหมณ์เอาไป ๑ ส่วน ยักษ์เอาไปทำมาหากิน ๑ ส่วน มารเอาไปแก้ไขทำลายอีก ๑ ส่วน เหลือดีเพียง ๑ ส่วน ซึ่งเป็นจริง พิสูจน์ความเป็นจริงได้ และเรื่องเดียวกันนี้ที่ พระพุทธเจ้าตรัสพุทธพยากรณ์ เมื่อ
พระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์จะมาช่วยสืบอายุพุทธศาสนาในกึ่งพุทธกาล
ของพระตถาคต นั้น จะมีสรรพวัตถุทั้งหลายบังเกิดขึ้นแก่โลก
อย่างแปลกประหลาดเหลือจะคณานับ ….. เรื่องที่ยกมานี้ ท่านไม่ต้องเชื่อ เพราะสามารถพิสูจน์ความจริงเกี่ยวกับการผิดปกติไปของโลกได้ด้วยหลักฐาน รูปธรรม ที่ยอมรับกันทั่วโลกในปัจจุบัน หลักฐานวิดีโอมีี้ครบที่ 7 ลิงค์ข้างล่างสุดท้ายของข้อมูล สำหรับท่านผู้สนใจพระไตรปิฎก ๒๐ กัณฑ์ ดูได้จากลิงค์ข้างล่าง
|
ลิงค์ พระไครปิฎก ๒๐ กัณฑ์ |
ลิงค์ ดร.ก้องภพ อยู่เย็น วิศวกรไทยที่นาซ่า กล่าวถึงโอกาสเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ ใน 21 ธันวาคม 2012 |
ข้อสังเกต ในเรื่องมหาทาน ๕ ประการ ที่ปรากฏในพระไตรปิฎกมีพิรุษมาก เรื่องของสุราที่เข้ามารวมกับกรรมกิเลส 4 กลายเป็นศีล 5 นั้น มีพิรุษมาก ยกตัวอย่างเช่น พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕
ปุญญาภิสันทสูตรที่ปรากฏในพระไตรปิฎก มีพิรุษมาก ไม่มีความชัดเจน ขาดความเกี่ยวเนื่อง เมื่อเทียบกับคำตรัสจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้าโคตม ตามที่พระอานนทเถระ์เป็นผู้เล่าต่อมา และพระสงฆ์จดจำพระสูตรได้มาจนถึงทุกๆ วันนี้ เกี่ยวกับหนทางไปสวรรค์ของกาลามสูตร ที่มีที่มาที่ไป มีความเกี่ยวเนื่อง ประกอบครบบริบูรณ์ ไม่ใช่ ห้วงบุญ ห้วงกุศล ๘ ประการ มีมหาทาน ๕ ประกอบอยู่ด้วยดังกล่าว ซึ่งมีข้อผิดพลาดเห็นได้ชัดเจน แสดงว่าพระพุทธเจ้าอาจไม่ได้ตรัสหรืออาจตรัสพียงบางส่วน แต่พระสงฆ์แก้ไขตามความเห็นของตนๆ อย่าลืมว่ากว่าพระไตรปิฎกกว่าจะได้มีการบันทึกลงในใบลานเป็นครั้งแรกก็เมื่อ ประมาณ พ.ศ. 460 หรือ 1003 ปีหลังจากที่พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพานแล้ว ความผิดพลาดย่อมมีเป็นธรรมดา อีกตัวอย่างหนึ่งที่มีพิรุษมากเช่นกัน และสามารถพิสูจน์ได้ว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสเช่นนี้ คือ พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕
อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
เวลามสูตร ผู้ที่มีปัญญาธรรมย่อมเห็นพิรุษมาก ซึ่งลักษณะการตรัสสอนของพระพุทธเจ้ามีหลักการ มีสัทธรรมเป็นเครื่องค้ำจุน ฉะนั้นถ้าพระผู้มีพระภาคจะตรัสเวลามสูตร ย่อมไม่เป็นไปแบบนี้ ดังนั้นเรื่อง ปุญญาภิสันทสูตร หรือ เวลามสูตร ก็ดีนี้ อาจเป็นความตั้งใจดี มีความบริสุทธิ์ใจของพระสงฆ์ ที่จะพยายามให้พระพุทธศาสนาเป็นที่เคารพเชื่อถือกับคนในสมัยก่อนๆ จึงได้เขียนเรื่องราวเพิ่มเติมลงไปอย่างนั้น เมื่อเวลาผ่านไปความนิยม ความเข้าใจต่างกัน ธรรมใดที่ไม่ใช่ของแท้ ย่อมเห็นร่องรอยของความไม่ถูกต้องและไม่สมควร ฉะนั้นท่านผู้มีปัญญา ควรเริ่มเห็นความเด่นชัดในเรื่องเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าโคตมไม่ได้ตรัสสอน ศีล 5 และทำไมพระพุทธเจ้าทรงห้ามไม่ให้พระสงฆ์สาวกจดบันทึกคำสอนใดๆ ยกเว้นจะต้องท่องจำเพียงอย่างเดียว โปรดพิจารณา จะเห็นว่า พระสูตรจากพระโอษฐ์ที่พระอานนท์เล่ามานั้น และพระสงฆ์ท่องจำมาได้จนบัดนี้ มีหลักการ มีความต่อเนื่องด้วยความเป็นไปที่เป็นสัทธรรมและสามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริง ได้้ สำหรับพระไตรปิฎกมีพิรุธสามารถพิสูจน์ได้ว่า มีพิรุษมาก ที่ยกมาเป็นเพียงตัวอย่าง ผู้มีกุศลปัญญาย่อมเห็นความถูกต้องได้เองแล้ว เสรีภาพของแต่ละบุคคล สำหรับท่านใดจะยึดถืออย่างไร จะเชื่อกันอย่างไรนั้น เป็นสิทธ์ิเสรีภาพของแต่ละท่าน ไม่มีใครห้าม ไม่มีใครบังคับได้ แต่ถ้าการใดๆ ที่ไม่เป็นประโยชน์ มีโทษ หรือเป็นประโยชน์ ไม่มีโทษ ย่อมเป็นสิ่งที่แต่ละบุคคลย่อมรับผลมาจากการกระทำนั้นๆ ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีอย่างไร พุทธพยากรณ์เกี่ยวกับพระเมตฺเตฺย หรือพระจักรพรรดิ หรือพระศรีอารย์มีจริงในปัจจุบันตามหลักฐานพิสูจน์ได้ พระพุทธเจ้าโคตมตรัสไว้ชัดเจนในพยากรณ์ว่า พระเมตฺเตฺย จะมาทนุบำรุงพระพุทธศาสนาในปัจจุบัน ให้ รุ่งเรื่องจนครบพุทธกาล (ไม่มีศาสนาพระศรีอารย์) แต่คนส่วนใหญ่มิได้สนใจ ก็คงไม่มีปัญหาใด เพราะเมื่อมนุษย์ไม่ต้องการสิ่งดีงาม โลกามหาวินาศจะเกิดขึ้นเพื่อล้างผู้ไม่มีคุณความดีพอให้ตายไปจากโลกนี้ ตามพยากรณ์ ประมาณง่ายๆ ว่า 10 คนจะเหลือเพียงคนเดียว สำหรับพระพุทธเจ้าโคตมตรัสไว้ว่าผู้คนจะเหลือน้อยนิด ตามหลักฐานสำคัญยิ่งที่พระพุทธเจ้าโคตมตรัส เกี่ยวกับ ครูอินทราได้เปิดเผยตามหลักฐาน พิสูจน์ได้ว่า 1. ศีล 5 นั้น พระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสไว้
นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ที่ครูอินทราได้บอกล่าวมา
|
Youtube ลิงค์ พระเยซูคือบุตรพญามาร (English) |
ครูอินทราไม่ได้มาสอนศาสนาใหม่ ไม่ได้เป็นบรรพชิต ขอให้ทำความเข้าใจให้ถูกต้อง ท่านเคยสงสัยไหมว่า ่เคยมีใครบนโลกได้กระทำเช่นที่ครูอินทราได้กระทำดังที่กล่าวมาบ้าง โปรดสังเกตสีสปาสูตร ดังนี้ พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๙ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๑ สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค สีสปาปรรณวรรคที่ ๔ สีสปาสูตร [๑๗๑๒] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ สีสปาวัน ใกล้เมืองโกสัมพี ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคทรงถือใบประดู่ลาย ๒-๓ ใบด้วยฝ่าพระหัตถ์ แล้วตรัสเรียกภิกษุ ทั้งหลายมา แล้วตรัสถามว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ใบประดู่ลาย ๒-๓ ใบที่เราถือด้วยฝ่ามือกับใบที่บนต้น ไหนจะมากกว่ากัน? ภิกษุทั้งหลายกราบทูล ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ใบประดู่ลาย ๒-๓ ใบที่พระผู้มีพระภาคทรงถือด้วยฝ่าพระหัตถ์มี ประมาณน้อย ที่บนต้นมากกว่า พระเจ้าข้า. พ. อย่างนั้นเหมือนกัน ภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่เรารู้แล้วมิได้บอกเธอทั้งหลายมีมาก ก็เพราะเหตุไรเราจึงไม่บอก เพราะสิ่งนั้นไม่ประกอบด้วยประโยชน์ มิใช่พรหมจรรย์เบื้องต้น ย่อมไม่เป็นไปเพื่อความหน่าย ความคลายกำหนัด ความดับ ความสงบ ความรู้ยิ่ง ความตรัสรู้ นิพพาน เพราะเหตุนั้น เราจึงไม่บอก. [๑๗๑๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งอะไรเราได้บอกแล้ว เราได้บอกแล้วว่า นี้ทุกข์ ... นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา ก็เพราะเหตุไรเราจึงบอก เพราะสิ่งนั้นประกอบด้วยประโยชน์ เป็น พรหมจรรย์เบื้องต้น ย่อมเป็นไปเพื่อความหน่าย ... นิพพาน เพราะฉะนั้น เราจึงบอก ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงกระทำความเพียรเพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา. สีสปาสูตรชี้ชัดเจน ว่าพระพุทธเจ้าโคตมตรัสเน้นสอนถึงผู้เป็นบรรพชิตเกี่ยวกับ "พรหมจรรย์เบื้องต้น" แต่จริงๆ แล้วยังมีเรื่องสำคัญเกี่ยวกับชีวิตและวิญญาณของผู้คนทั่วไป ซึ่งท่านทั้งหลายไม่เคยได้เรียนรู้กันมาก่อน ซึ่งจะเน้นเกี่ยวกับชีวิตของฆราวาสโดยเฉพาะ แต่เมื่อเราเองไม่เห็น ละเลยหน้าที่ของคนดี ไม่สนใจว่าการพิสูจน์ความจริงของครูอินทรา ที่มีความสำคัญยิ่งกับชีวิตและวิญญาณของเราๆ ดังนั้นสิ่งที่ครูอินทรารู้เพื่อประโยชน์เกิดสันติสุข และสันติภาพที่แท้จริงของมนุษย์ทั้งหลาย จึงไม่สามารถนำออกมาบอกกล่าวได้ เพราะเราทั้งหลายเป็นต้นเหตุใช่หรือไมุ่ที่ไม่สนใจพิสูจน์ความจริง ุ ถึงแม้ครูอินทราได้เปิดกว้างให้เกิดความยุติธรรมแก่ทุกฝ่ายขึ้นแล้วก็ตาม พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในพุทธทำนาย ก็ถือว่าเป็นกรรมของสัตว์ทั้งหลาย อ้างอิง (ข้อมูลส่วนอื่น เช่นพระไตรปิฎก ท่านจะหาได้ทั่วไป) พระไตรปิฏก ๒๐ กัณฑ์ โดย อจ.ธวัช เที่ยงประภัสสร์ ปธ. ๙
วัดเบ็ญจมบพิตร รวบรวมไว้เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๘
มีอยู่ในห้องสมุดของวัดวัดเบ็ญจมบพิตร กรุงเทพมหานคร ขอขอบคุณ คุณพลน้อย ที่พลังจิตในเรื่องพระไตรปิฏกกัณฐ์ที่ ๓/๒๐
พระไตรปิฏกกัณฐ์ที่ ๓/๒๐ พระศรีอารย์ คือพระจักรพรรดิกึ่งพระศาสนานี้
มาจากใบลานเก่าที่วัดแถวบ้าน ใบลานนี้เก่ามากตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๙๘
ขอยืมพระท่านที่วัดมา scan และส่งคืนวัดไปแล้ว รับรองว่าเป็นของจริงแน่นอน
ยังมีต้นฉบับที่ scan อยู่ครับและเท่าที่ทราบ
|
![]() |
ภาพ
ที่เห็นข้างบน และวิดีโอข้างล่างนี้ เป็นสิ่งที่ี่นักวิทยาศาสตร์โลกไม่ทราบ
แต่ครูอินทราทราบ ออร์กะอธิบายตามที่ครูอินทราให้ข้อมูลมาเบื้องต้น
ดูได้จากรูปที่มีภาษาไทย |
พระ
พุทธเจ้าโคตมตรัส เมื่อพระเมตฺเตฺย จักปรากฎ จะเห็นผีพุ่งไต้บ่อยๆ
ดาวหางและแสงประหลาดจะบังเกิดให้เห็นไม่ขาดระยะ ที่เห็นเป็นตัวอย่างหนึ่ง
เป็นที่สังเกตุว่า การถ่ายภาพได้เกิดจากความบังเอิญ |
เรื่องที่นักวิทยาศาสตร์ไม่มีคำตอบใดๆนี้ มีอยู่ในพยากรณ์เกี่ยวกับเสียงสัญญาณของสงครามระหว่างเทพกับมาร ที่เรียกว่า the apocalypse. |
ตัวอย่างหนึ่งที่นำมาลงให้ดู เพื่อให้เห็นความแปลกของเมฆ ที่ธรรมชาติไม่สามารถทำให้เกิดเช่นนี้ได้ |
พยากรณ์ตรง
มากในเรื่องสัตว์ต่างๆ ตาย
และต่อไปจะเป็นมนุษย์ที่เทพจะล้างคนที่ไม่ดีพออกไปจากโลก 10 คนเหลือ 1 คน
เรื่องนี้พระจักรพรรดิจะช่วยได้ แต่คนไม่สนใจ |
หลักฐานจาก
สัญญาณเรด้าที่ดีชิ้นหนึ่ง ที่ยืนยันว่า
ทำไมนักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถหาคำตอบว่านกตกมาตายได้อย่างไร
ทั้งนี้เพราะไม่มีใครรู้ว่าสิ่งที่เห็นในจอเรด้านั้น มันคืออะไร |
วิดีโอดีที่ควรดู รวบรวมเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบโลกไว้ ชี้ถึงโลกกำลังเป็นอะไรไปในปี 2011-2012 โปรดดูวีดีโอ ที่ได้ศึกษาค้นคว้ามาจากหลักฐานต่างๆ
ใหม่ โปรดคลิก ลิงค์ไปยังวีดีโอ ทำไมโลกวิปริต ความจริงที่พิสูจน์ได้ และปี 2556 จะเป็นอย่างไร
|
ถ้าท่านเห็นสิ่งผิดพลาด โปรดแจ้ง webmaster ที่ selfwisdom@live.com จักขอบคุณยิ่ง
|
2 พ.ค. 2554 |
กลับไปหน้าแรกของ metteya.org |